พ.ต.อ.นพศิลป์ เกิดที่เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี เรียนจบเตรียมทหารรุ่น ๓๐ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น ๔๖) ปริญญาโทรัฐศาสตร์ สาขาบริหารงานยุติธรรม ม.เกษตรศาสตร์ รับราชการครั้งแรกเป็น รอง สว.ประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รอง สวส.สน.เตาปูน รอง สว.สส.บก.น.๒ สว.งานสืบสวน บก.น. ๒ และ สว.งานสืบสวน บก.น.๗ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศส. บช.น. รอง ผกก. ๓ บก.สส.บช.น. และเป็น ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
ปี ๒๕๔๑ รับโล่รางวัลข้าราชการตำรวจดีเด่นจากสโมสรตารีสุสิต ปี ๒๕๔๙ รับรางวัลตำรวจมีผลงานป้องกันปราบปรามดีเด่น อันดับ ๑ จากสมาคมตำรวจ ปี ๒๕๕๒ รับรางวัลการพัฒนาและปรับปรุง ศส.บช.น.ดีเด่น สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ปี ๒๕๕๓ รับรางวัลประกาศเกียรติคุณตำรวจยอดพลเมืองเยี่ยมจาก ผบช.น. และรับรางวัลข้าราชการตำรวจดีเด่นต้นแบบ ประจำปี ๒๕๕๓ ด้านสืบสวนจากมูลนิธิ บุณยะจินดา
หลายคดีที่ “ผู้กำกับนักสืบ” คนนี้และทีมงานพิชิตได้สำเร็จ บางคดีต้องเสี่ยงตาย มีการยิงต่อสู้กันดุเดือด ถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย แต่โชคดีมีบารมีพระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยมาได้อย่างเหลือเชื่อ
“ทุกวันนี้ผมคล้องพระเครื่องติดตัวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงทำงานหรือเดินทางไปทำธุระต่าง ๆ เชื่อว่าช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดและปลอดภัย ก็มี หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว, พระกริ่งหลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา, พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า, เหรียญเสด็จพ่อ ร.๕, เหรียญรัชกาลที่ ๙, พระนาคปรกประจำวันเกิดและตะกรุดหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย ส่วนใหญ่พวกให้มาทั้งนั้น วัตถุมงคลชุดนี้เคยมีประสบการณ์ ครั้งหนึ่งผมไปจับผู้ร้ายคดีลักรถดารา ถูกยิงระยะเผาขนห่างแค่ ๔-๕ เมตร วินาทีนั้นคิดว่า ไม่รอด แต่ไม่เป็นอะไรเลยน่าอัศจรรย์มาก” พ.ต.อ.นพศิลป์ เล่าให้ฟัง
ก่อนอำลากัน ผู้กำกับนักสืบ ฝากถึงคนนิยมพระว่า ใครก็ตามที่ศรัทธาพระ ถ้าคิดดี ทำดี ย่อมได้สิ่งที่ดีตอบแทนแน่นอน อย่างโจรอย่างผู้ร้ายคือ ฝ่ายอธรรม เราคิดดีและต้องการทำดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครองเราเสมอ ดั่งคำ
ที่ว่า “ธรรมะย่อมชนะอธรรม” และส่วนตัวผมเอง หากมีเวลาว่างจากการทำงานจะเดินสายไปทำบุญตามวัดหรือสถานที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ เกิดเป็นคนสร้างบุญกุศลเอาไว้ไม่เสียหลาย.
แทนคุณ กตัญญู
คัดลอกจาก : http://www.dailynews.co.th/article/1291/103983
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น